วันพุธที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2559

สิ่งที่ดิฉันได้รับจากวัดพระธรรมกาย

สิ่งที่ดิฉันได้รับจากวัดพระธรรมกาย

ทุกคนเกิดมาต่างแสวงหาความสุขด้วยกันทั้งนั้น

มีครอบครัวก็หวังที่จะมีความสุข เมื่อไม่สมหวังก็เลิกร้างกันไป ฉันใดก็ฉันนั้น

มีคนจำนวนมากมายไปวัดพระธรรมกาย สิบปีบ้าง ยี่สิบปีบ้าง หรือมากกว่านี้ก็มี 

ถ้าไปวัดพระธรรมกายแล้วไม่มีความสุข เขาคงไม่ไปกันอย่างมากมายและอย่างยาวนาน

ดิฉันเองรู้จักและไปวัดพระธรรมกาย เป็นเวลา ๓๐ ปีแล้วค่ะ
บางคนก็บอกว่าถูกล้างสมองบ้าง งมงายบ้าง ฯลฯ
จะถูกกล่าวหาอย่างไรก็ตาม พวกเราชาววัดพระธรรมกายก็มีความสุขมากกว่าพวกคนที่กล่าวหาเราและไม่เคยไปวัด เพราะชีวิตของเขาเหล่านั้นเต็มไปด้วยความสับสน ร้อนระทมไปด้วยความทุกข์

น่าแปลกนะคะ ในขณะที่เขาว่าวัดพระธรรมกายนั้น แต่เขาก็ชมพวกเราชาววัดพระธรรมกายด้วยว่าเป็นคนดี มีความเคารพ สุภาพ อ่อนน้อม มีระเบียบ มีวินัย ซื่อสัตย์ และมีความกตัญญู

ดิฉันจึงอยากจะบอกว่า ร่างกาย เลือดเนื้อที่ก่อร่างสร้างเป็นชีวิตหนึ่งนี้เพราะคุณพ่อคุณแม่ให้ อีกทั้งความรู้ที่มีความดีพื้นฐานที่ได้ก็จากคุณพ่อคุณแม่และคุณครูบาอาจารย์ แต่วัดพระธรรมกายก็ต่อยอดให้อย่างมากมาย กว้างขวาง และลึกซึ้งขึ้นไปอีก 

วัดพระธรรมกายสอนให้รู้ซึ้งถึงพระคุณของคุณพ่อคุณแม่ คุณครูบาอาจารย์  คุณของพระรัตนตรัย คุณของประเทศชาติ สอนให้มีวินัย เคารพ อดทน สอนให้รักษาวัฒนธรรมอันดีงามของชาวไทยซึ่งมีรากเง่ามาจากพระพุทธศาสนานั่นเอง มิใช่แค่สอนให้รู้คุณ และให้ธำรงรักษาเท่านั้น แต่วัดพระธรรมกายยังสอนวิธีที่จะตอบแทนให้ตอบแทนพระคุณทั้งหมดนั้นด้วย 
นอกจากนี้วัดพระธรรมกายยังได้สอนกฏแห่งกรรม ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว สอนให้รู้คุณค่าของการเกิดมาเป็นมนุษย์ สอนให้รู้เป้าหมายของการเกิดมา สอนให้ดำเนินชีวิตที่ถูกต้องตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงสอนไว้คือ..อย่าได้ประมาทในชีวิต 

ชีวิตที่ไม่ประมาทก็ต้องสั่งสมบุญกุศลคือ ทาน ศีล ภาวนา ละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้ผ่องใส

อยากบอกว่า ชีวิตของดิฉันมีความสุข มีความหมาย มีคุณค่า ก็เพราะวัดพระธรรมกาย

ถ้า....
วัดพระธรรมกาย ล้างสมองแล้วทำให้เกิดคนดีที่มีความสุข ภาครัฐน่าจะดีใจและควรจะสนับสนุนนะคะ ประเทศไทยจะได้สงบร่มเย็นเป็นสุขค่ะ










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น